1.
แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ให้นักศึกษาอ่านบทความอย่างน้อย 3 บทความหรือมากกว่า ใช้ Keywordว่า "แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา"ให้เขียนเชื่อมโยง
วิเคราะห์ลงในบล็อกของนักเรียน
แท็บเล็ตคืออะไร
แท็บเล็ต คือคอมพิวเตอร์แบบพกพา
ที่ควบคุมการใช้งานผ่านหน้าจอสัมผัส มีขนามเล็กกว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค พกกาง่าย
น้ำหนักเบา มีคีย์บอร์ดในตัว ระบบการเชื่อมต่อสัญญาณเครือข่ายอิมเตอร์เน็ตแบบ WiFi
และ WiFi + 3G
"แท็บเล็ต" (Teblet) เพื่อการศึกษา
งานเขียนของคุณ สุรศักดิ์ ปาเฮ เรื่อง "แท็บเล็ต" (Teblet)
เพื่อการศึกษา เห็นว่าเป็นเรื่องที่พวกเราควรจะได้รับรู้รับทราบ
ความเป็นมาเป็นไปในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดการศึกษาไทย
ของเราและของลูกหลานของเรา สรุปความได้ว่า
ในยุคที่เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นวัตกรรมใหม่อย่าง "แท็บเล็ต"
(Teblet) กำลังได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายมากขึ้น
ล่าสุดนโยบายของรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นั้น ได้นำ
"แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา"
มาเป็นเครื่องมือยกระดับคุณภาพและกระจายโอกาสทางการศึกษา
ทำให้แท็บเล็ตได้ก้าวเข้ามาเป็นเครื่องมือที่สำคัญ
ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดการศึกษาไทย
นโยบายการศึกษาภาครัฐโดยเฉพาะด้านการศึกษาของรัฐบาลปัจจุบันที่ได้แถลงไว้เมื่อวันที่
26สิงหาคม 2554
เกี่ยวกับนโยบายด้านการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทัดเทียมกับนาๆชาติ
ต่อรัฐสภาว่าเป็นนโยบายที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการยกระดับคุณภาพการศึกษาและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้มีระบบการเรียนแบบอิเล็กทรอนิคส์แห่งชาติเป็นกลไกในการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของการเรียนรู้
โดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและเอื้อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีพ พัฒนาเครือข่ายและพัฒนาระบบไซเบอร์โฮม(Cyber Home) ที่สามารถส่งความรู้มายังผู้เรียนด้วยระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
โดยการจัดให้มีการแจกแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา(Tablet for
Education)ที่เป็นเครื่องมือด้านสื่อเทคโนโลยีที่สำคัญและมีอิทธิพลค่อนข้างมากต่อการปรับใช้ในการสร้างมิติแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาจัดการศึกษาของไทยปัจจุบัน
โดยที่นโยบายของการปฏิบัติกับนักเรียนช่วงแรกตามโครงการ One Tablet
PC Per Child จะมุ่งเน้นไปที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
1 จำนวน 539,466 คน
เป็นกลุ่มเป้าหมายนำร่องที่สำคัญของการนำสื่อแท็บเล็ตสู่การพัฒนาการเรียนรู้ครั้งนี้
จุดเด่น
ของการใช้แท็บเล็ต
1.สนองต่อการเรียนรู้เป็นรายบุคคล
2.เป็นสื่อที่ก่อให้เกิดการสร้างปฏิสัมพันธ์อย่างมีความหมาย
3.เกิดการแบ่งปันประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
4.สามารถออกแบบหน่วยการเรียนรู้ได้ชัดเจน
และมีความยืดหยุ่น
5.ส่งผลสะท้อนความก้าวหน้าทางการเรียนรู้จากเนื้อหาที่เรียนต่อผู้เรียนได้ดีและสามารถช่วยให้ผู้เรียนปรับปรุงตนเองในการเรียนรู้เนื้อหาสาระ
6.สนองต่อคุณภาพข้อมูลสารสนเทศ
ทำให้ผู้เรียนเข้าถึงเนื้อหาสาระของข้อมูลสารสนเทศ
จุดบกพร่องของการใช้แท็บเล็ต
1.ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีหลักสูตรการเรียนการสอนโดยการใช้
Tablet
2.ครูผู้สอนยังขาดทักษะในการใช้อุปกรณ์
Tablet ในการจัดการเรียนการสอน
ในขณะที่ผู้เรียนบางคนมีความพร้อมที่จะเรียน
3.ยังไม่มีการสร้างเนื้อหาบทเรียนและกิจกรรมที่ใช้ประกอบการเรียนการสอน
4.ยังไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบ
ด้านการบำรุงรักษา
การแก้ปัญหาเรื่องอุปกรณ์และการใช้งาน
5.มีการจำกัดผู้เรียนในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้
(อินเตอร์เน็ต ซึ่งทำให้ผู้เรียนขาดอิสระใน
การเรียนรู้
จากสรุปผลงานวิจัยของ Bata ICT
Research ที่ได้ศึกษาผลการใช้แท็บเล็ตพีซีประกอบการเรียนการสอนในโรงเรียนประถมศึกษาจำนวน
12 โรงเรียนในประเทศอังกฤษช่วงระหว่าง ค.ศ.2004-2005
ซึ่งมีผลการศึกษาหลายประการที่นำมาพิจารณาและนำมาประยุกต์ใช้ได้กับบริบทด้านการศึกษาของไทย
สามารถสรุปได้ ดังนี้
ด้านการเรียน
การใช้แท็บเล็ต(Tablet)
โดยให้ผู้เรียนและผู้สอนมีแท็บเล็ตพีซีเป็นของตนเองอย่างทั่วถึง
เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการใช้อย่างมีประสิทธิผล
โดยพบว่าการใช้แท็บเล็ตเป็นการสร้างแรงจูงใจของผู้เรียนและมีผลกระทบในทางบวกต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
อีกทั้งช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
เข้าถึงองค์ความรู้นอกห้องเรียนอย่างกว้างขวาง
ด้านหลักสูตร
สำหรับด้านหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนนั้นพบว่า
การใช้แท็บเล็ตพีซีนั้นช่วยส่งเสริมให้มีการใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอน และส่งเสริมให้มีการพัฒนาหลักสูตรหรือการจัดการเรียนการสอนที่มีเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นส่วนประกอบมากขึ้น
อย่างไรก็ตามการสร้างให้เกิดผลสำเร็จดังกล่าวนั้นต้องอาศัยปัจจัยสนับสนุนและการจัดการในด้านต่างๆจากผู้บริหารเช่นการสนับสนุนให้มีเครือข่ายสื่อสารแบบไร้สาย(Wireless
Network) และเครื่องสายแบบไร้สาย (Wireless Data Projector) ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสามารถสร้างและใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ในการประกอบการเรียนการสอนในสถานศึกษาต่อไป
ดังนั้นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุดสำหรับครูไทย คือ
ต้องต้องแก้ไขข้อบกพร่องที่มีอยู่และจัดโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ดีอย่างเพียงพอ
และพัฒนาบุคลากรในการใช้แท็บเล็ต
เพื่อให้ครูเกิดความคุ้นชิน และมีทักษะ
ในการใช้แท็บเล็ตอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งกระตุ้นให้ผู้เรียนและผู้สอนมีความกระตือรือร้นและมีเวลาเพียงพอที่จะได้ทดลองและสร้างนวัตกรรมการใช้งานแท็บเล็ต
ของตนเอง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดในการจัดการเรียนการสอน
และก้าวไปสู่การศึกษาสากลเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ มิใช่เป็นเพียงม่านบังตาที่ฝรั่งเห็นแล้วอมยิ้ม
เพราะการศึกษาของไทยยังต้องพัฒนาอีกมากเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว
ที่มา : บทความแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา
: โอกาสและความท้าทาย ( Tablet for Education : The Opportunity and
Challenge ) โดย สุรศักดิ์ ปาเฮ
บทความแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา โดย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วิทยา อารีราษฎร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พิสุทธา อารีราษฎร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
จดหมายข่าวสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา ปีที่ 3 ฉบับ 125 ประจำวันที่ 30
กรกฏาคม 2555 เรื่องแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาไทย
ระยะที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๕ โรงเรียนสาธิตในสังกัด สกอ. ๑๒ แห่ง ได้รับ ๑,๓๑๔ เครื่อง
2.อ่านบทความเรื่องสมาคมอาเซียนอ่านบทความอย่างน้อย 3
บทความหรือมากกว่า ใช้ Keywordว่า "สมาคมอาเซียน"
ให้เขียนวิเคราะห์ ประเทศไทย ประเทศเพื่อนบ้าน การเตรียมตัวเป็นครู นักเรียน
นักศึกษา เพื่อไปสู่อาเซียนได้อย่างไร
"สมาคมอาเซียน"
สมาคมอาเซียน
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 10
ประเทศที่รวมเป็นสมาชิก คือ ไทย
มาเลย์เซีย สิงคโบร์ ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน เวียดนาม พม่า
ความเป็นอาเซียน
คือ “
หนึ่งวิสัยทัศน์, หนึ่งเอกลักษณ์, หนึ่งประชาคม” นี้คือ วิสัยทัศน์ของสมาคมอาเซียน
การสร้างและเตรียมความพร้อมของประเทศไทยเข้าสู่สังคมอาเซียนทางการศึกษา
โดยการพัฒนาการศึกษาเพื่อรองรับอาเซียน
โดยการปฏิรูประบบกระบวนการเรียนรู้ของสังคมไทย การจัดโครงการความรู้ที่ก้าวหน้าและได้มาตรฐาน
ทั้งความรู้ที่เป็นสากลและภูมิปัญญาท้องถิ่น
ปฎิรูปหลักสูตรการศึกษาทุกระดับให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงโลก
การเตรียมตัวเป็นครู นักเรียน
นักศึกษาเพื่อเข้าสู่สังคมอาเซียน
ต้องมีการเตรียมเรื่องภาษาอังกฤษให้มีทักษะวิชาชีพที่ได้มาตรฐานวิชาชีพนี้คือปัจจัยหลักที่สำคัญสำหรับครู
นักเรียนนักศึกษาของไทย และสิ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมคือ
การให้เยาวชนรู้สังคมวัฒนธรรมประชาคมอาเซียนมากขึ้น
ศึกษาเรียนรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ และความเคลื่อนไหวของประเทศคู่เจรจาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก
เพิ่มประสิทธิภาพทางการศึกษาทุกระดับชั้นโดยการวัดผลจากการทดสอบตามมาตรฐานระดับสากลจัดให้มีครูดีและเพียงพอในทุกห้องเรียน
ปฎิรูปครู ยกฐานะครูให้เป็นวิชาชีพขั้นสูงอย่างแท้จริง
โดยการผลิตครูให้มีคุณภาพทัดเทียมกับนานาชาติ เปิดโอกาสให้เด็กไทยไปเรียนต่างประเทศ
เร่งพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทัดเทียมกับนานาชาติ
เช่นส่งเสริมความรู้มายังผู้เรียนให้นักเรียนทุกระดับชั้นให้ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อการศึกษาให้มีโรงเรียนและสถาบันอาชีวศึกษาคุณภาพสูงในทุกพื้นที่
พัฒนามหาวิทยาลัยเข้าสู่ระดับโลก
การศึกษาสร้างความเป็นพลเมือง ( Civic
Education ) เป็นการจัดการศึกษาเพื่อความเป็นพลเมือง ( Citizenship
) ของระบอบประชาธิปไตย
การเป็นสมาชิกของสังคมที่มีอิสรภาพควบคู่กับความรับผิดชอบ
และมีสิทธิเสรีภาพควบคู่กับหน้าที่ โดยมีความสามารถในการยอมรับความแตกต่างและเคารพกติกาการอยู่ร่วมกัน
พร้อมทั้งมีส่วนร่วมต่อความเป็นไปและแก้ปัญหาของสังคมตนเอง
ดังนั้นการเตรียมตัวเข้าสู่สังคมอาเซียนในยุคใหม่ภายใต้สถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงทางสังคมโลก
เพื่อมุ่งสร้างความเป็นสังคมแห่งอาเซียน เชื่อได้ว่าสังคมไทยสามารถยกระดับการศึกษาเข้าสู่สังคมอาเซียนได้อย่างภูมิใจและมีศักดิ์ศรี
ที่มา
: บทความย่อ เรื่อง การเตรียมความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน
เรียบเรียงโดย อาจารย์ภณ ใจสมัคร
บทความเรื่อง
การศึกษาไทยกับประชาคมอาเซียน : ศักยภาพและความพร้อมเชิงระบบ
โดย
สุรศักดิ์ ปาเฮ
3.อ่านบทความครูกับภาวะผู้นำของ ผศ.ดร.สมาน คำฟูแสง
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับครู ให้ยกตัวอย่าง ประกอบ แสดงความคิดเห็น บทความ
ผศ.ดร.สมาน คำฟูแสง
"การที่ครูมีความรู้ความสามารถและแสดงออกให้เห็นว่าเป็นผู้มีสมรรถนะด้านการจัดการเรียนการสอน จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ในเรื่องศรัทธาคือครูต้องมีความศรัทธาในตัวลูกศิษย์
ไม่ว่าลูกศิษย์จะเป็นอย่างไร มีความไว้วางใจในตัวลูกศิษย์และสามารถทำให้ลูกศิษย์ไว้วางใจในตัวอาจารย์ได้คือสามารถเก็บความลับได้
สร้างแรงบันดาลใจครูสามารถสอนให้ลูกศิษย์เกิดความคิดแปลกใหม่และผลักดันให้เกิดสิ่งนั้นขึ้นได้
ยอมรับในความเป็นปัจเจกบุคคลคือการที่ครูต้องยอมรับความคิดเห็นในลูกศิษย์ทุกคน
“ครูกับภาวะผู้นำทางวิชาการ ครูที่จะเป็นผู้นำทางการเรียนการสอนควรมีพฤติกรรม 7 ประการ คือ
1.หาหนังสือที่ติดอันดับขายที่ดีที่สุดมาอ่าน อาจจะเป็นสิ่งจำเป็นว่าครูต้องหาหนังสือดีๆมาอ่านทำไมถึงต้องหาหนังสือที่ขายดีที่สุดมาอ่าน
เพราะหนังสือที่ขายดีต้องมีสิ่งท่าสนใจ มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่แน่นอน
2.อยู่กับปัจจุบัน / ทันสมัย ครูต้องมีความทันเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากโลกปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
เพราะครูต้องสามารถนำความรู้ในปัจจุบันมาประยุกต์ใช้ในการสอนได้
3.หาข้อมูลที่มีความรู้เกี่ยวกับเด็ก ครูต้องมีความรู้ในตัวเด็กเพื่อจะนำไปสู่การพัฒนาเด็กได้
หากเด็กคนใดมีปัญหาก้อสามารถแก้ที่ต้นเหตุได้
4.ทำให้เด็กแสดงออกซึ่งการเป็นภาวะผู้นำ ครูต้องเป็นผู้สนับสนุนให้เด็กกล้าที่จะแสดงออก
ไม่ปิดกั้นการเป็นผู้นำ ต้องให้เด็กเกิดทักษะที่จะเป็นผู้นำได้
5.กำหนดให้เด็กทำงานรวมกันเป็นกลุ่ม เมื่อจัดการเรียนการสอนก็ต้องมีการจัดการเรียนการสอนโดยให้เด็กทำงานรวมกลุ่มกัน
เพื่อให้เกิดความสามัคคีและมีการยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
6.เชิญบุคคลภายนอกมาพูดให้เด็กฟัง เพราะการเชิญบุคคลภายนอกหรือวิทยาการมาสามรถทำให้เด็กได้เกิดการเรียนรู้ได้มากและเป็นความรู้ที่แท้จริง
7.ท้าทายให้เด็กได้คิด
ครูต้องสอนให้เด็กคิดและลงมือทำ ในสิ่งแปลกใหม่ ตั้งโจทย์ที่แปลกใหม่เพื่อให้เด็กเกิดการพัฒนาได้มากขึ้น
4.ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นและประเมินวิชานี้ว่า การเรียนรู้โดยใช้บล็อก
นักศึกษามีวิธีการเรียนรู้อย่างไร แสดงความคิดเห็นหากจะเรียนรู้โดยใช้บล็อก
ต่อไปข้างหน้าโอกาสจะเป็นอย่างไร ควรที่จะให้คะแนนวิชานี้อย่างไร และหากนักเรียนต้องการจะได้เกรดในวิชานี้
นักเรียนจะต้องพิจารณาว่า
จากการเรียนวิชาการบริการจัดการในชั้นเรียน
ได้เกิดการเรียนรู้มีทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้น มีความรู้ที่ไม่อยู่ในกรอบ คือสามารถเรียนรู้ได้มากว่าในห้องเรียน
คือการเรียนแบบออนไลน์ก็ว่าได้ ได้เกิดการเรียนรู้ที่เกิดจากการศึกษาด้วยตัวเองเยอะ
ทำให้เกิดทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ และสังเคราะห์
หากมีการเรียนรู้แบบนี้สามารถทำให้เรานำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวันเนื่องจากในโลกการเปลี่ยนแปลงวันข้างหน้ามีการเรียนรู้โดยใช้แท็บเล็ต
เราก็มีพื้นฐานในการใช้เทคโนโลยีอยู่บ้างจึงเป็นการง่ายที่จะนำไปใช้ต่อไป
ถ้าถาว่าอยากได้เกรดอะไร
อยากได้เกรด A เพราะในการเรียนวิชานี้ดิฉันมีความพยายามและตั้งใจในการทำงานทุกชิ้นที่ได้รับมอบหมาย
เข้าเรียนทุกครั้งไม่เคยขาดเรียน แต่อาจจะมีบ้างครั้งที่มาสายไปบ้าง
แต่ก็ไม่มีผลต่อการเรียนรู้ ในการทำงานส่งบ้างครั้งอาจเป็นเพราะที่หอไม่มีอินเตอร์เน็ตหากทำงานส่งในห้องไม่ทันจึงทำให้การทำงานล่าช้าไปบ้างแต่งานทุกชิ้นที่ทำส่งเกิดจากการคิด
วิเคราะห์ด้วยตนเองทั้งสิ้นอาจจะมีบ้างครั้งที่เข้าไปอ่าของคนอื่นแต่ไม่ได้คัดลอก
แต่จะนำมาเป็นแนวทางในการตอบ โดยใช่ความคิดของตน
สิ่งที่ดิฉันได้กล่าวไปทั้งหมดเป็นความสัตย์จริงทั้งสิ้น หากมีสิ่งใดผิดพลาดประการใด
ก็แล้วแต่อาจารย์จะพิจารณาในการให้คะแนน ขอบอบพระคุณอาจารย์อภิชาติ วัชรพันธ์ ที่ถ่ายทอดความรู้
ให้คำปรึกษามาโดยตลอดภาคการศึกษา